20 ข้อเท็จจริง ของพลแม่นปืนตำรวจ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ Valor Tactical

พลแม่นปืน ไม่ว่าจะ สายตำรวจ หรือ สายทหารกองทัพ
ต่างเริ่มฝึกฝนจากพื้นฐานเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การปฎิบัติงาน
ทั้ง 2 จะมีพัฒนาการทางทักษะเฉพาะอย่าง ที่แตกต่างกันออกไป

แต่ไม่ว่าจะแตกต่างกันออกไปมากแค่ไหน
ทุกสถานการณ์จะบีบลงมาที่บทสรุปเดียวกันคือ การเหนี่ยวไกสังหาร หรือ ยับยั้งเป้าหมาย

ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ ระยะทำการยิง
ในขณะที่พลแม่นปืนทหาร มีศักยภาพที่จะทำการยิงจากระยะไกล และพื้นที่สู้รบที่เปิดกว้าง

พลแม่นปืนทหารมีโอกาศให้เลือกกระทำการยิงได้มากกว่า
ด้วยเรื่องของพื้นที่ทำการรบ และโอกาศในการเห็นเป้าหมายหรือโอกาศในการยิงลำตัว
หน้าที่ของพวกเขาคือการซุ่มยิงสังหารบุคคลสำคัญที่ได้รับมอบหมาย
หรือสนับสนุน คุ้มกัน ทหารราบในการเข้าปะทะ
จากที่ตั้งตำแหน่งซุ่มยิงที่มีการพรางตัว

แต่พลแม่นปืนตำรวจ ถูกจำกัดด้วยพื้นที่การปฎิบัติงานของพวกเขา
ที่มักเกิดขึ้นในตัวเมือง ตึกรามบ้านช่องและสิ่งกีดขวาง
สถานการณ์ส่วนใหญ่ที่พลแม่นปืนตำรวจ ต้องเจอเป็นประจำคือ
ระยะทำการยิงที่ต่ำกว่า 100 เมตรเสียอีก

ถึงจะดูเป็นระยะที่ฟังดูง่ายดาย แต่หนําซ้ำพลแม่นปืนตำรวจ
จำต้องระลึกถึงกฎการเข้าปะทะ อยู่เสมอ และโอกาศที่จะต้องต่อกร
กับสถานการณ์คนร้ายจับตัวประกัน หรือ ผู้บริสุทธิ์ที่วิ่ง หรือ เดินขวักไขวบดบังเป้าหมาย
หรือโอกาศที่จะต้องยิงเป้าหมายที่เห็นได้
แม้เพียงเศษเสี้ยวของส่วนหัวของเป้าหมายตำแหน่งหลังกระจกตัวอาคาร

ที่พยายามจะบอกก็คือ เป้าหมายส่วนใหญ่
ที่ท้าทายความสามารถของพลแม่นปืนตำรวจนั้น
มักจะเป็นส่วนหัวของคนร้ายเสียส่วนใหญ่
เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องยับยั้งคนร้ายให้ได้ ภายในนัดเดียว
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายโดยรอบที่อาจเลวร้ายมากขึ้นจากคนร้ายที่บาดเจ็บ

ด้วยข้างต้น การปฎิบัติงานของพลแม่นปืนตำรวจ จำเป็นต้องใช้สมาธิที่สูง
และการตัดสินที่เด็ดขาด ฉับไว และอาจมีผลกระทบตามมาหากตัดสินใจผิดผลาด

เมื่อเกริ่นมาซะยาว จากนี้จะมาสรุปถึง 20 ข้อเท็จจริง
ของพลแม่นปืนตำรวจ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

1) ปืนไรเฟิลที่พลแม่นปืนตำรวจ ส่วนใหญ่เลือกใช้คือ
Remington M700 Bolt Action
และลูกกระสุนที่ใช้คือ 7.62mm/.308 Winchester.

2) บทบาทของพลแม่นปืนตำรวจ เมื่อถูกเรียกตัวเข้าร่วมภารกิจ
หน้าที่ของพวกเขาคือ ผู้ยับยั้งเป้าหมายหรือสถานการณ์ มากกว่าที่จะเป็นเพียง
ผู้สังเกตการณ์และหาข่าว

3) คุณสมบัติสำคัญสำหรับพลแม่นปืนตำรวจ
คือทักษะในการกระทำการยิงต่อเนื่อง ให้ได้กลุ่มกระสุนไม่เกิน 1 นิ้ว
ที่ระยะทำการยิงที่ 100 เมตร

4) พลแม่นปืนตำรวจส่วนใหญ่จะปฏิบัติงานคู่กับ พลชี้เป้าเสมอ

5) จากบันทึกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา 95% เป็นสถานการณ์ที่
บีบบังคับให้ต้องทำการยิงที่ระยะต่ำกว่า 100 เมตร

6) ลูกกระสุนที่นิยมใช้คือ .308 /168-grain hollow-point boat-tail (HPBT)

7) ในขณะที่ พลแม่นปืนทหารในสนามรบพยายามที่จะเลือกที่ตั้ง
ซุ่มยิงให้ห่างจากเป้าหมายมากที่สุด กลับกัน พลแม่นปืนตำรวจพยายาม
ที่จะเลือกจุดใกล้เป้าหมายที่สุดเท่าที่จะเป็นได้และโอกาศในการเปิดเผยที่ตั้งน้อยที่สุด

8) พลแม่นปืนตำรวจกระทำการยิงด้วยท่านอนน้อยมากๆ
แต่มักจะเป็นท่าที่เกิดจากการปรับตามสถานการณ์ หรือ ท่านั่งเป็นเสียส่วนใหญ่

9) พลแม่นปืนตำรวจส่วนใหญ่ ประจำการอยู่กับหน่วยปฎิบัติการพิเศษ
หรือ SWAT

10) ปฎิบัติการของพลแม่นปืนตำรวจ มักที่จะต้องต่อกรกับสถานการณ์
คนร้ายจับตัวประกัน หรือ คนร้ายอยู่หลังที่กำบัง เป็นเสียส่วนใหญ่

11) บ่อยครั้งที่พลแม่นปืนตำรวจ จำเป็นต้องเหนี่ยวไก ในเสี้ยววินาที
ที่ได้รับคำสั่งจาก ผู้บังคับการปฎิบัติการ ซึ่งเห็นภาพรวมของสถานการณ์ตลอดเวลา

12) บ่อยครั้งที่พลแม่นปืนตำรวจ หมั่นศึกษา เก็บข้อมูล ระยะ ตำแหน่งอาคาร
ทิศทางที่ได้เปรียบ ของพื้นที่รับผิดชอบของตนอยู่เสมอ
เพราะเมื่อถูกเรียกตัวเข้าร่วมภารกิจ พวกเขานั้น ก็จะมีข้อมูลพื้นที่อยู่ในมือ
พร้อมที่จะวางแผนตามสถานการณ์ต่อไปได้สะดวกยิ่งขึ้น

13) ชุดปฎิบัติการพิเศษ SWAT แทบทุกหน่วยทั่วโลก มักจะมีหลักสูตรเสริมเฉพาะ
สำหรับพลแม่นปืนประจำหน่วยเสมอ

14) ถ้าหากว่า พลแม่นปืนตำรวจ ไม่ได้ถูกบรรจุเข้าประจำการ ชุดปฎิบัติการพิเศษ SWAT
พวกเขานั้นก็ยังปฎิบัติงานเหมือนตำรวจทั่วไป

15) ปืนของ พลแม่นปืนตำรวจ มักจะเป็นปืนที่ไม่ได้รับการปรับแต่งใดๆ
เพราะความต้องการที่จะต้องคงความไว้วางใจต่ออาวุธปืนของพวกเขาอยู่เสมอ

16) ถ้าหากปฎิบัติการที่ได้รับมอบหมายยืดเยื้อเกินไป พลแม่นปืนตำรวจ
จะมีการผลัดกะเฝ้าสังเกตการณ์ และ ตรวจการ ผ่านกล้องเล็งเสมอ

17) การสูบบุหรี่ และ การดื่มกาแฟ นั้นเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับพลแม่นปืนตำรวจ
เพราะทั้ง 2 อย่างมีผลเสียต่อประสาทตาของผู้ปฎิบัติการ

18) น่าแปลกที่ถึงแม้ว่าพลแม่นปืนตำรวจถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมภารกิจ
แต่ภารกิจส่วนใหญ่จบลงโดยที่พลแม่นปืนตำรวจ ไม่ได้ยิงเลยสักนัดเดียว

19) 95% ของปฎิบัติการของพลแม่นปืนตำรวจ มักเกิดขึ้นในสภาวะแสงน้อย
หรือช่วงเวลากลางคืน

20) บันทึกจาก สมาคมพลแม่นปืนสหรัฐ รายงานว่า
กว่า 200,000 เคส ในห้วง 20 ปี ที่ชุดปฎิบัติการพิเศษ SWAT ถูกเรียกตัวออกไป
ในทุกพื้นที่ทั่วอเมริกา มีเพียง 172 เคสเท่านั้น ที่จบลงด้วยพลแม่นปืนตำรวจ
ลั่นไกสังหารหรือยับยั้งผู้ต้องสงสัย

พลซุ่มยิง พลแม่นปืน หรือไม่ว่าจะชื่อใดๆก็ตาม
คนผู้นั้นที่เสียสละแรงกายฝึกฝน และ จิตใจที่เข็มแข็ง
ปีนป่ายอาคาร มองหลังกล้องเล็งร่วมชั่วโมง วางแผนในหัวคิดหลายตลบ
เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่า หากพลาดเป้าไปเพียงนิ้วเดียว ชี้วัดได้ว่า
ภารกิจจะสำเร็จ หรือ จะกลายเป็นโศกนาฏกรรม


ที่มา : https://www.tactical-life.com/lifestyle/tactics/target-20-police-marksman-facts/

บทความ : On Target: 20 Police Marksman Facts

ผู้แปล เรียบเรียง : ธีธัช รินชัย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Leave a comment

All comments are moderated before being published